มหัศจรรย์นมแม่ลด 3 โรคร้าย

 มหัศจรรย์นมแม่ลด 3 โรคร้าย


ชี้มีหลักการ ต้องดูดนมแม่อย่างน้อย 8 ครั้งต่อวัน ห้ามให้นมผสมเลย

          ในปัจจุบันนี้ “น้ำนมแม่” อาหารมื้อแรกที่เด็กทารกได้สัมผัส เป็นอาหารที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เปรียบเสมือนของขวัญอันทรงคุณค่าที่โลกประทานให้ ไม่น่าเชื่อว่าสารอาหารในน้ำนมแม่นั้นมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกทั้งด้านร่างกาย สมอง และอารมณ์ แม้จะมีวิวัฒนาการผลิตนมผงผสมสารอาหารต่างๆออกมาใช้ทดแทนก็ไม่สามารถเทียบกับประโยชน์จากนมแม่ล้วนๆได้

          ปัจจุบันมีการรณรงค์ให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น เห็นได้จากศูนย์นมแม่ที่เปิดให้บริการคุณแม่มือใหม่นั้นมีแทบทุกโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว ด้วยความสำคัญดังกล่าวศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมมือกันสนับสนุนรณรงค์ “นมแม่ดีที่หนึ่งเลย ทุกที่ ทุกคน สนับสนุนนมแม่ได้” โดยเผยแพร่ภาพพระฉายาลักษณ์ขนาดโปสเตอร์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพื่อสื่อถึงผลดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

          พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีการรณรงค์ใน 120 ประเทศ ต่อเนื่องมานาน 17 ปี โดยปีนี้มีคำขวัญสัปดาห์นมแม่ว่า “Mother Support : Going For the Gold” หมายถึง การช่วยเหลือแม่ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ย่อมช่วยนำลูกสู่การมีสุขภาพดี เทียบได้กับการฟูมฟักดูแลนักกีฬาสู่เหรียญทองโอลิมปิก

          งานวิจัยจากทั้งในประเทศและต่างประเทศพบว่า การดื่มนมแม่นอกจากจะทำให้ลูกไม่ป่วยบ่อย ไม่เป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพของเด็กเมื่อเติบโตด้วย ทั้งนี้ มีข้อมูลพบว่าเด็กดื่มนมแม่จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้าย 3 โรค ได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่คือ ลดการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 40 หมายความว่า ถ้ามีเด็กไม่ได้กินนมแม่และโตขึ้นเป็นเบาหวาน 100 คน ถ้าเปลี่ยนเด็กกลุ่มนี้มากินนมแม่ เมื่อโตขึ้นจะเป็นเบาหวานเพียง 60 คน, ลดการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Acute lymphoblastic leukemia-All ได้ร้อยละ 20, มะเร็งต่อมน้ำเหลืองลดลงร้อยละ 24 และมะเร็งสมอง (นิวโรบลาสโตมา) ลดลงร้อยละ 41

          ทั้งนี้ นมแม่ยังช่วยลดการเกิดโรคอ้วนได้ร้อยละ 22 มีระดับโคเลสเตอรอลต่ำกว่า อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและเส้นโลหิตอุดตันเมื่อสูงวัยด้วย ขณะที่การศึกษาที่ยืนยันล่าสุดในประเทศฟิลิปปินส์ที่ติดตามเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 8.5 ปี พบว่าเด็กที่ดื่มนมแม่มีไอคิวดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่เฉลี่ย 1.6-9.8 จุด และจะยิ่งดีถ้ากินนมแม่นาน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดน้อย ทั้งนี้ นมแม่ไม่ได้มีแต่ลูกเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพแม่ โดยช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมและรังไข่ และโรคกระดูกพรุน

          ทางด้าน พญ.เยาวลักษณ์ รพีพัฒนา สูติ-นรีแพทย์ กล่าวว่า หลักสำคัญในการให้นมลูกคือ ให้นมบ่อยและห้ามให้อาหารเสริมเด็ดขาดในระยะ 4 เดือนแรก ส่วนการที่แม่ผู้ให้นมลูกจะมีน้ำนมมากนั้น มีหลักการว่าต้องให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆอย่างน้อยที่สุด 8 ครั้งต่อวัน ห้ามให้นมผสมหรือแม้แต่น้ำเพราะจะทำให้ลูกดูดนมแม่น้อยลง นอกจากนี้ต้องให้ลูกดูดนมอย่างถูกวิธี ซึ่งวิธีการให้นมลูกที่ถูกวิธีปากลูกต้องอยู่ในระดับเดียวกับหัวนมแม่ ศีรษะของลูกต้องอยู่สูงกว่าก้นเล็กน้อย และควรให้ศีรษะก้มเล็กน้อย ตัวลูกโค้งเป็นรูปตัวซี ส่วนตัวคุณแม่ต้องพยุงเต้านมโดยนิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน ที่เหลืออีก 4 นิ้วคอยประคองเต้านมด้านล่าง ลูกต้องอมหัวนมลึกจนมิดลานสีน้ำตาลทั้งหมด

          นอกจากนี้ พญ.เยาวลักษณ์ยังกล่าวแนะนำว่า แม่ผู้ให้นมลูกควรดื่มน้ำมากๆอาจดื่มได้ถึง 12 แก้วต่อวัน น้ำจะเป็นเครื่องดื่มหรือน้ำผลไม้ก็ได้ เนื่องจากทารกต้องการโปรตีนมากขึ้น แม่จึงต้องดื่มนมวันละ 2-3 แก้ว รับประทานไข่ เนื้อสัตว์ เต้าหู้อย่างน้อยวันละ 1 แผ่น และควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับ เนื้อแดง และผักใบเขียว เพื่อสร้างเม็ดเลือดและควรรับประทานผลไม้ทุกวัน เช่น มะละกอ และมะม่วง ซึ่งจะมีวิตามินเอ ส่วนผลไม้รสเปรี้ยวจะมีวิตามินซีสูง

 
(ข้อมูลจากงานสัปดาห์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โลก จัดโดยโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท)

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ วันที่ 26 ก.ย. 51

ความคิดเห็น