[บทความ] น้ำนมแม่ไม่ทำให้ลูกตัวเล็ก

 จากการเสวนา นมแม่ : การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากแม่...สู่แม่ โครงการพัฒนารูปแบบการสร้างพฤติกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในชุมชน : กรุงเทพมหานคร ในหัวข้อ “น้ำนมแม่กับน้ำหนักลูก” ซึ่งศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สสส. สมาคมแม่บ้านสาธารณสุข และกลุ่มแม่อาสากรุงเทพมหานคร จัดขึ้น ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พญ.มิร่า โคราน่า กุมารแพทย์จาก รพ.เด็ก และ พญ.นภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล กุมารแพทย์จาก รพ.สร้างเสริมสุขภาพศูนย์อนามัยที่ 1 ร่วมยืนยันว่าน้ำนมแม่ไม่ใช่สาเหตุทำให้น้ำหนักของลูกลดน้อยลง ตามความเชื่อที่ผิดว่าไม่ได้รับอาหารเสริมเหมือนเด็กกินนมผสม


พญ.มิ ร่า กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าในน้ำนมแม่มีโปรตีนที่สำคัญ และจำเป็นต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาสมองของลูกน้อยเป็นอย่างยิ่ง ตามธรรมชาติเด็กที่กินนมแม่ใน 3 เดือนแรกน้ำหนักจะขึ้นสูงมากแบบพุ่ง เนื่องจากน้ำหนักขึ้นตามการพัฒนาสมอง เพราะเด็กในวัยนี้สมองเติบโตเร็ว แต่หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว น้ำหนักเพิ่มขึ้นช้าลงตามธรรมชาติ ไม่ใช่สาเหตุที่ว่านมแม่ไม่พอแต่ประการใด

“การที่คุณแม่นำอาหารอื่น มาเพิ่มให้ลูกทั้งที่ยังไม่เหมาะสม เป็นการนำโปรตีนแปลกปลอมเข้าสู่ลูก โดยเฉพาะนมผสม ซึ่งก่อให้เกิดการแพ้ การย่อยไม่สมบูรณ์ เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย ซึ่งเป็นโอกาสจะนำเชื้อโรคสู่ลูก ทำให้เจ็บป่วย อีกทั้งลูกน้อยกระเพาะยังเล็ก การให้นมผสมหรืออาหารอื่นจะทำให้แย่งพื้นที่ในกระเพาะ ทำให้กินนมแม่ได้น้อยลง เสียโอกาสที่จะได้รับโปรตีนจากน้ำนมแม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดในชีวิตลูก “พญ.มิร่ากล่าวเตือน

พญ.นภา พรรณ เสริมว่า การที่เด็กไม่อ้วนเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ไม่ได้เกิดจากกินนมแม่แน่นอน กลับตรงกันข้าม เด็กที่กินนมแม่จะเป็นเด็กที่มีพัฒนาการดี ร่างกายแข็งแรง ทำให้เป็นเด็กซนตามวัย และเมื่อมีการเคลื่อนไหวตัวตลอดเวลาก็ทำให้เกิดการใช้และเผาผลาญพลังงาน พร้อมกัน จึงไม่มีไขมันไม่จำเป็นสะสมในร่างกาย อีกทั้งพื้นฐานโครงสร้างร่างกายเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ ซึ่งเด็กที่ไม่อ้วน ยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น เด็กไม่เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดัน, โรคหัวใจ ฯลฯ

ส่วน ข้อวิตกที่ว่าเด็กกินนมแม่ตัวเล็ก เพราะสาเหตุนมแม่มีไม่พอ พญ.นภาพรรณยืนยันว่า ไม่มีทางน้ำนมไม่พอแน่นอน เพียงแต่ว่าคุณแม่มือใหม่ต้องตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ โดยปรึกษาคลินิกนมแม่ใกล้บ้าน.

ที่มา : เดลินิวส์

ความคิดเห็น