“น้ำคาวปลา” จะขับไปเพื่อ ?
วันนี้เอาบทความเกี่ยวกับ การกินยาขับน้ำคาวปลา มาให้อ่านกัน เขียนโดยหมอท่านนึง ที่ใช้นามแฝงว่า NaughtyDog
.
.
.
น้ำปลา…คาว…อ๊ะ…น้ำคาวปลา
อันเนื่องมาจากมีผู้โพสท์ถามกระทู้เกี่ยวกับน้ำคาวปลาครับ อย่ากระนั้นเลย เรามารู้จักน้ำคาวปลากันหน่อยดีกว่า
น้ำ คาวปลา ภาษาฝาหรั่งเรียกว่า Lochia เปรียบเสมือนประจำเดือนหลังตั้งครรภ์ครับ ทำไมนะหรือ ก็เพราะประจำเดือนก็คือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นเพื่อรองรับตัวอ่อนให้ มาฝังตัว แต่เมื่อไข่ไม่ได้รับการผสมฮอร์โมนจากรังไข่ลดลง เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือน
ดังนั้นสำหรับแพทย์แล้ว เลือดประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสียครับ เช่นเดียวกัน น้ำคาวปลาก็คือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นระหว่างตั้งครรภ์(ซึ่งมันหนา กว่าตอนปกติมากครับ)
หลังคลอดบุตรก็จะเริ่มหลุดลอกออกมา
ลักษณะของน้ำคาวปลาแบ่งออกได้เป็นสามแบบด้วยกันครับ คือ…
ระยะแรก น้ำคาวปลาจะมีลักษณะเหมือนเลือดประจำเดือน เรียกว่า Lochia Rubra(Rubra = สีแดง)
คือจะเป็นเลือดสีคล้ำๆ ปกติก็ประมาณใช้ผ้าอนามัยหลายผืน(3-5 ผืน) เป็นแบบนี้อยู่ราวๆ 3-5 วัน
แต่ถ้าผ่าคลอด ก่อนจะเย็บปิดมดลูกสูติแพทย์จะเช็ดภายในโพรงมดลูกก่อนครับ ทำให้น้ำคาวปลาที่เป็นเหมือนเลือดเมนส์มีน้อยกว่าพวกที่คลอดเอง อาจจะมีแค่วันสองวันก็จะเปลี่ยนเป็นแบบที่สองครับ
ระยะที่สอง น้ำคาวปลาจะสีจางเหมือนน้ำล้างเนื้อ คือสีแดงจางๆ เรียกว่า Lochia Serosa(Serosa = น้ำเหมือนน้ำเหลืองของร่างกายครับ) น้ำคาวปลาแบบนี้จะเป็นอยู่ประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์หลังคลอดครับ
ระยะที่สาม น้ำคาวปลาจะเหมือนตกขาวสีน้ำตาลๆ ออกไม่มาก เรียกว่า Lochia Alba(Alba = สีขาว) น้ำคาวปลาแบบนี้จะมีอยู่จนกระทั่งหมดระยะหลังคลอดครับ ระยะหลังคลอดนี่กินเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์หลังคลอดครับ
เป็นความเชื่อของ เรา(เราในที่นี้หมายถึงคนไทยครับ)ว่าควรจะทานยาขับน้ำคาวปลา เพื่อให้น้ำคาวปลาออกเยอะๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง ความเชื่อดังกล่าวน่าจะมีรากฐานมาแบบเดียวกับการกินยาขับประจำเดือนครับ
อย่างที่กล่าวแล้วในตอนต้นว่า…เรามักจะคิดว่าเมนส์เป็นเลือดเสียที่ร่าง กายกรองมาจากที่ต่างๆแล้วมาขับออกทางช่องคลอด คือเป็นของสกปรก…ออกเยอะๆยิ่งดี
ในทางการแพทย์แล้ว ถ้าเมนส์มามากมากนี่ส่วนใหญ่แล้วจะมีโรคอะไรต่อมิอะไรซ่อนอยู่ครับ เหมือน กัน…น้ำคาวปลานี่ก้อจะโดนข้อหาเดียวกันครับว่า..ถ้าไม่ขับออกให้หมด จะเป็นอันตรายเมื่ออายุมากขึ้น เช่น จะทำให้เจ็บป่วยง่าย หรือทำให้ปวดหลังเมื่อแก่ตัวขึ้น ความเชื่อดังกล่าวไม่มีหลักฐานยืนยันเลยครับ
กำลังจะบอกว่า…ข้อดี ของการรับประทานยาขับน้ำคาวปลานั้นไม่มีอะไรรองรับ อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นข่าวลือทั้งนั้น
คิดดูง่ายๆ…ในประเทศส่วนใหญ่ที่เหลือในโลก นี้ไม่มียาขับน้ำคาวปลาใช้(อึ มมม…หรือมีใครส่งออกยาขับน้ำคาวปลาด้วยนะเนี่ย…) หากทำให้เกิดอันตายเมื่ออายุมากขึ้น หญิงไทยคงแข็งแกร่งกว่าหญิงใดๆในโลกแล้วครับ(เอ…หรือว่าจะจริง)
นอกจากนี้อาการปวดหลังเป็นโรคที่พบในคนสูงอายุ เป็นปกติอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเพศชายหรือเพศหญิง หรือข้อหาที่ว่าจะเจ็บป่วยง่ายเมื่ออายุมาก อึมมม…อายุมาก…โรคภัยไข้เจ็บก็ต้องมากไปตามสภาพครับ!
ที่นี่มาว่าถึง ข้อเสีย เป็นที่ทราบกันอย่างแน่ชัดว่ายาขับน้ำคาวปลาจะใช้ส่วนผสมเป็นเหล้าครับ และผ่านน้ำนมได้ และพบด้วยว่ามารดาที่ทานยาดองเหล้าหรือยาขับน้ำคาวปลาขณะให้นมบุตร จะเกิดเลือดออกผิดปกติในบุตรได้ครับ ดังนั้น…หากให้นมบุตร…แพทย์จะแนะนำไม่ให้ทานยาขับน้ำคาวปลาครับ
แต่ถ้าไม่ได้ให้นมบุตรนี่…ก้อแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่าจะมีประโยชน์อันใดครับ
มาว่ากันต่อถึง เรื่องน้ำคาวปลาครับ เนื่องจากการตกเลือดหลังคลอดนั้นพบได้สองช่วงครับ คือช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด อันนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงพยาบาลครับ ทำให้แพทย์ดูแลเรื่องนี้ไปได้แล้ว ช่วงที่เป็นปัญหาคือ การตกเลือดหลังคลอดในระยะหลัง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นหลังคลอดประมาณ 1-2 สัปดาห์ครับ
อาการสำคัญคือ น้ำคาวปลาชนิดที่สองซึ่งควรจะเป็นน้ำคาวปลาสีแดงจางเหมือนน้ำล้างเนื้อ แต่กลับกลายเป็นเลือดสดๆออกมาแทนครับ หากในช่วงเวลาดังกล่าว(หลังคลอด 1-2 สัปดาห์)เกิดมีเลือดออกมากเป็นเลือดสดๆ คุณแม่หลังคลอดต้องไปพบแพทย์ก่อนนัดครับ เพราะไม่ใช่เลือดเมนส์ หรือไม่ใช่น้ำคาวปลาปกติครับ
ส่วนใหญ่การตกเลือดหลังคลอดตอนนี้มักจะเกิดการติดเชื้อในโพรงมดลูก หรือที่เรียกว่า มดลูกอักเสบครับ
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ให้คุณแม่หลังคลอดได้บ้างนะครับ ถือเป้นของขวัญปีใหม่แล้วกันนะครับ
ที่มา :
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=naughtydoc&month=01-2009&group=2&date=05&gblog=4
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น