[บทความ] ยูนิเซฟระบุหญิงไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่น้อยที่สุดในเอเชีย

 ยูนิเซฟระบุหญิงไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่น้อยที่สุดในเอเชีย


เมื่อ วันที่ 5 ก.ย. นายพินิจ จารุสมบัติ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชนในเขต กทม.และปริมณฑล ผู้บริหารกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมการปกครองว่า ผลการสำรวจล่าสุดของกรมอนามัยพบว่า ผู้หญิงหลังคลอดกว่า 8 แสนคนไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะมีการแจกจ่ายนมผงหลังคลอด โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน และคลินิก ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวกระทรวงจะขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลทั่ว ประเทศทั้งรัฐและเอกชนไม่ให้มีการแจกจ่ายนมผม และห้ามโฆษณาส่งเสริมนมผงในโรงพยาบาลรวมทั้งจะส่งเสริมให้มีการเลี้ยงนมแม่ อย่างเดียวจนถึงอายุ 6 เดือน
 
ด้านนางพรธิดา พัดทอง เจ้าหน้าที่โครงการฝ่ายสารนิเทศ องค์การยูนิเซฟประเทศไทย กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในไทย เพราะไทยอยู่อันดับท้ายสุดในทวีปเอเชีย โดยตัวเลขระบุว่าแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วน ๆ ในระยะ 4 เดือนมีเพียง 16% ในขณะที่องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนไทยมีตัวเลขเพียง 5% ในขณะที่ตัวเลขประเทศกำลังพัฒนาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะอยู่ที่ 44%
 
“ตอนนี้คนไทยยังไม่เข้าใจการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วน ๆ ในช่วง 4-6 เดือน หลายคนยังเข้าใจว่าช่วงนี้ต้องให้น้ำร่วมด้วย มิฉะนั้นลิ้นเด็กจะเป็นฝ้า ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะนมแม่มีสารอาหารทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องให้เด็กดื่มน้ำเพราะจะทำให้เด็กดื่มนมได้น้อย นอกจากนี้การดื่มนมแม่ยังทำให้ไม่เสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และคุณแม่ไม่ต้องทานยาคุมกำเนิดเพราะระหว่างการให้นมบุตรไข่จะไม่ตก ไม่มีประจำเดือน ส่วนเด็กจะแข็งแรง ลดอัตราการติดเชื้อทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ลงได้ 4-5 เท่า”นางพรธิดา กล่าวและว่าปัจจุบันน่าห่วงมากที่บริษัทนมผงมีการโฆษณาชวนเชื่อ เช่น มีการให้เด็กสวมชุดครุย ทำให้แม่เด็กเข้าใจผิดว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมผงจะทำให้เด็กฉลาด.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 กันยายน 2006

ความคิดเห็น