รวมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หลังหกเดือนแล้วจำเป็นต้องใช้นมชนิดอื่นเลี้ยงทารกด้วยไม่จริง ! นมแม่ให้คุณค่าทุกอย่างแก่ทารก เช่นเดียวกันกับที่มีในนมชนิดอื่น และมีมากกว่าด้วยซ้ำไป เด็กทารกที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน ควรจะเริ่มทานอาหารเสริมสำหรับทารกเป็นหลัก เพื่อให้ทารกได้เรียนรู้วิธีการทานอาหาร และทารกก็จะเริ่มได้รับธาตุเหล็กจากอาหารแหล่งอื่นนอกจากนมแม่ ซึ่งในระยะ 7-9 เดือนนั้น หากเด็กดื่มแต่นมแม่เพียงอย่างเดียว อาจได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอเท่านั้นเอง ตราบใดที่ทารกยังคงได้รับการเลี้ยงด้วยนมแม่อยู่ นมวัวหรือนมผสมนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม ถ้าแม่ต้องการจะให้ลูกดื่มนมภายหลังจากหกเดือนไปแล้ว , มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เด็กทารกจะไม่สามารถดื่มนมวัวได้, ตราบใดที่ทารกยังคงดื่มนมแม่ได้สองสามครั้งในหนึ่งวัน และทารกยังคงได้ทานอาหารเสริมหลากหลายชนิด ในปริมาณมากกว่าปริมาณต่ำสุดที่ร่างกายควรได้รับ ทารกที่อายุมากกว่าหกเดือนขึ้นไปส่วนใหญ่ที่ไม่เคยดื่มนมผสมมาก่อน มักจะไม่ยอมดื่มนมผสม ทั้งนี้เพราะรสชาติของนมผสมที่ไม่อร่อยเหมือนนมแม่นั่นเอง นมผงดัดแปลงสำหรับทารกสมัยนี้ดีเกือบจะพอๆ กับนมแม่ไม่จริง ! เหมือนกับข้ออ้างที่เคยมีในปี 1900 และก่อนหน้านั้น นมผสมรุ่นใหม่ๆในปัจจุบันนั้นคล้ายคลึงกับ นมแม่ เพียงผิวเผินเท่านั้น ทุกๆ ข้อบกพร่องของนมผสมได้ถูกโฆษณาว่า มีการพัฒนาสูตรโดยการเติมสารอาหารต่างๆแล้ว แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกนมผสมเหล่านี้ ทำลอกเลียนอย่างไม่ถูกต้อง บนพื้นฐานความรู้ที่ล้าสมัยและไม่สมบูรณ์ว่า นมแม่ นั้นเป็นอย่างไร นมผสมต่างๆนั้นไม่มีแอนตี้บอดี้, ไม่มีเซลล์ที่มีชีวิต, ไม่มีเอ็นไซม์ต่างๆ, ไม่มีฮอร์โมนนมผสมประกอบไปด้วยบรรดาธาตุอลูมิเนี่ยม, แมงกานีส, แคดเมียม, และธาตุเหล็กมากกว่าที่มีใน นมแม่ และนมผสมก็มีโปรตีนมากกว่านมแม่อย่างชัดเจน โปรตีนและไขมันต่างๆในนมผสมนั้น โดยพื้นฐานแล้วแตกต่างจากโปรตีนและไขมันในนมแม่ นมผสมต่างๆไม่ได้มีความแตกต่าง(ของสารอาหาร) ไม่ว่าจะตั้งแต่ช่วงแรกที่ลูกเริ่มดูดนม ไปจนถึงช่วงสุดท้ายของการดูดเหมือนนมแม่ หรือ ไม่มีความแตกต่างกันเลยไม่ว่าจะเป็นนมผสมจากวันที่ 1 กับวันที่ 7 หรือวันที่ 30 ไม่มีความแตกต่างในผู้หญิงแต่ละคน หรือเด็กทารกแต่ละคน ซึ่งไม่เหมือนกับนมแม่ นมแม่ของคุณนั้นถูกสร้างขึ้นมาตามความต้องการ ให้เหมาะสมกับลูกของคุณ นมผสมต่างๆนั้นผลิตขึ้นมาเหมือนกันหมดสำหรับเด็กทั่วไปทุกๆคน ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ได้เหมาะสมกับเด็กคนไหนเลยด้วยซ้ำ นมผสมประสบความสำเร็จเพียงแค่การทำให้ทารกเจริญเติบโตดี แต่นมแม่นั้นดีมีประโยชน์มากกว่าแค่ทำให้ทารกเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเท่านั้นควรทำความสะอาดหัวนมทุกครั้งก่อนให้ลูกดูด นมแม่ ไม่จริง ! การให้ทารกดื่มนมผสมนั้นต้องใส่ใจระมัดระวังเรื่องความสะอาด เพราะนมผสมนอกจากจะไม่ได้ช่วยป้องกันทารกต่อต้านการติดเชื้อแล้ว แต่ยังเป็นแหล่งที่ดีในการแพร่เชื้อแบคทีเรีย และยังสามารถปนเปื้อนได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ในทางตรงข้าม นมแม่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อให้แก่ทารก การล้างทำความสะอาดหัวนมก่อนการให้นมลูกแต่ละครั้งนั้น ทำให้เกิดความยุ่งยากในการให้นมลูกโดยไม่จำเป็นเลย และยังเป็นการชะล้างเอาพวกไขมันตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยต่อต้านแบคทีเรียออกไปจากบริเวณหัวนมด้วย ให้ลูกดื่มนมจากขวดนมง่ายกว่าให้ลูกดูดนมแม่ไม่จริง ! อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น ถูกทำให้ดูยุ่งยากเพราะผู้หญิงทั้งหลาย มักจะไม่ได้รับการแนะนำช่วยเหลือในช่วงเริ่มเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งพวกเธอควรจะได้เริ่มต้นอย่างเหมาะสมตั้งแต่แรกๆ การเริ่มต้นที่ไม่ดีนั้น สามารถทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องยากได้จริงๆ แต่ว่าการเริ่มต้นที่ไม่ถูกต้องนั้นก็สามารถทำให้ผ่านพ้นไปได้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มักจะทำได้ยากในครั้งแรก เนื่องจากการเริ่มต้นที่ไม่ดี แต่โดยปกติแล้วมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายในเวลาต่อมาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จำกัดอิสรภาพของแม่ไม่จริง ! แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองเรื่องนี้อย่างไร เด็กทารกสามารถดูดนมแม่ได้ทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นทำให้แม่มีอิสระไม่ยุ่งยาก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลากเอาขวดนม หรือนมผสมไปไหนต่อไหนด้วยให้พะรุงพะรัง ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับว่าจะต้องอุ่นนมที่ไหน ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความสะอาดปราศจากเชื้อโรค ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าลูกจะเป็นอย่างไร เพราะว่าลูกอยู่กับคุณตลอดระหว่างให้นมแม่ถ้าแม่ป่วยเป็นโรคติดต่อแล้วต้องหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่จริง ! ยกเว้นเพียงบางกรณีเท่านั้น (ซึ่งมีน้อยมากๆ) ทารกจะได้รับการปกป้องจากการดื่มนมแม่โดยแม่ยังคงให้นมลูกต่อไป เมื่อแม่เป็นไข้ (หรือไอ, อาเจียน, ท้องร่วง, ผื่นแพ้ ฯลฯ) ทารกก็ได้รับเชื้อโรคจากแม่แล้ว ตั้งแแม่ได้รับเชื้อโรคมาแล้วสองสามวัน ก่อนที่แม่จะรู้ตัวว่าตัวเองป่วยเสียอีก การปกป้องทารกจากการติดเชื้อหรือโรคติดต่อที่ดีที่สุดนั้นก็คือ การที่แม่ยังคงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป ถ้าทารกป่วย เขาจะป่วยไม่มากนักถ้าแม่ยังคงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไปนอกจากนี้แล้ว บางทีอาจจะเป็นทารกเองที่ป่วยและแม่ได้รับเชื้อโรคจากลูก เพียงแต่ทารกไม่ได้แสดงอาการป่วยเพราะว่าทารกนั้นได้ดื่มนมแม่ เช่นเดียวกันกับการติดเชื้อที่เต้านมของแม่ ซึ่งได้แก่ ฝีที่เต้านม หรือแม่แต่การเจ็บคัดเต้านมก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้ต้องหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยแท้จริงแล้ว การติดเชื้อที่เต้านมนั้นดูเหมือนจะหายได้อย่างรวดเร็วกว่า ถ้าแม่ยังคงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยให้ลูกดูดนมข้างที่เป็นนั้นต่อไปถ้าทารกท้องร่วงหรืออาเจียน แม่ควรหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่จริง ! การรักษาการติดเชื้อทางเดินอาหารที่ดีที่สุดของทารกคือการดื่มนมแม่ ช่วงที่ทารกท้องร่วง หรืออาเจียนอาจหยุดทานอาหารอย่างอื่นไประยะหนึ่ง แต่ควรจะให้ลูกดื่มนมแม่ต่อไป นมแม่นั้นเป็นของเหลวเพียงชนิดเดียว ที่ลูกของคุณต้องการเมื่อเด็กมีอาการท้องร่วง และ/ หรือ อาเจียน ยกเว้นภายใต้สภาวะผิดปกติบางอย่างเท่านั้น การผลักดันให้ใช้สารละลายน้ำตาลเกลือแร่ ในเด็กที่ท้องร่วงหรืออาเจียนนั้น ส่วนมากถูกผลักดันโดยบริษัทผู้ผลิตนมผสม (และ สารละลายน้ำตาลเกลือแร่) เพื่อให้ยอดขายเพิ่มขึ้นทำเงินได้มากขึ้นให้แก่บริษัท เด็กทารกนั้นสามารถที่จะดื่มนมแม่ได้อย่างสบาย และแม่เองก็ได้รับความสะดวกสบายจากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หากแม่ทานยาต้องหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่จริง ! มียาเพียงจำนวนน้อยมากๆ ที่แม่ไม่สามารถทานยานั้น ได้อย่างปลอดภัยระหว่างที่ต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจพบปริมาณยาเพียงเล็กน้อยในน้ำนม แต่โดยทั่วไปแล้วมันเป็นปริมาณที่น้อยมากซึ่งไม่น่าวิตกกังวลอะไร แต่หากยารักษาโรคชนิดนั้นอาจจะมีผลข้างเคียงที่น่าวิตก ก็ยังคงมียาชนิดอื่นๆซึ่งมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเทียบเท่ากันกับยาดังกล่าวนั้น ดังนั้น ควรจะต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ระหว่างประโยชน์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่มีต่อทั้งแม่และลูกที่จะต้องเสียไป เมื่อพิจารณาว่าจะหยุดการให้นม ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ต้องหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่จริง ! ถ้าหากว่าแม่และเด็กยังคงต้องการ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังคงดำเนินต่อไปได้ มีผู้หญิงจำนวนมาก ที่ยังคงให้นมลูกคนที่โตกว่าต่อไป ถึงแม้จะคลอดลูกคนใหม่ออกมาแล้วก็ตาม ผู้หญิงหลายๆคนตัดสินใจที่จะหยุดให้นมลูกเมื่อพวกเธอตั้งครรภ์ เพราะพวกเธอมีอาการเจ็บคัดที่เต้านมหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องรีบหยุดให้นมลูก หรือไม่ใช่เหตุผลทางด้านการแพทย์ที่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ในความเป็นจริงแล้ว มีเหตุผลที่ดีมากมายที่ควรจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป ปริมาณนมแม่อาจจะลดลง ระหว่างที่ตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเด็กทานอาหารเสริมอย่างอื่นได้ เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย การเลี้ยงลูกแฝดด้วยนมแม่นั้นเป็นการยากเกินไปที่จะทำไม่จริง ! ถ้าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดำเนินไปได้ดีไม่มีปัญหา การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่ลูกแฝดนั้น ง่ายกว่าการป้อนฝาแฝดด้วยนมขวดเสียอีก สิ่งนี้ก็คือคำตอบที่ว่า ทำไมถึงต้องพยายามอย่างมากเป็นพิเศษ ในการที่จะเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ถูกต้องตั้งแต่แม่เริ่มคลอดทารกฝาแฝดออกมา มีผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องเลี้ยงลูกแฝดสามด้วยนมแม่เองแต่เพียงผู้เดียว แน่นอนว่าการทำเช่นนี้เป็นงานที่หนักและต้องใช้เวลามาก แต่การให้นมแก่ฝาแฝดสองและแฝดสามนั้น ก็เป็นงานที่หนักและใช้เวลามากอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงพวกเขาด้วยนมอะไรก็ตามเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ได้ เพราะไม่มีนม หรือนมไม่พอ ไม่จริง ! จริงๆ แล้ว ผู้หญิงที่เป็นแม่ส่วนใหญ่มีนมสำหรับลูกเกินพอเสียอีก การที่ทารกบางคนร้องมากๆ ในช่วงสัปดาห์แรกไม่ใช่เพราะ นมแม่ไม่พอ แต่เป็นเพราะการดูดไม่ถูกต้อง ทำให้ทารกไม่ได้รับน้ำนมที่มีอยู่ในอกแม่อย่างที่ต้องการ เมื่อดูดไม่ถูกต้อง ลูกก็จะร้องเพราะไม่ได้น้ำนม วิธีแก้ปัญหาคือ ให้ลูกดูดให้ถูกวิธี ดูดบ่อยๆ ในวันแรกๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนม ในทางตรงข้าม แม่ส่วนใหญ่กลับคิดว่าตนเองไม่มีน้ำนม แล้วก็แก้ปัญหาด้วยการให้นมผสม แล้วก็หยุดให้ลูกดูดนมตนเอง พอหลายๆ วันเข้า ร่างกายคุณแม่ก็จะตอบสนองด้วยการหยุดสร้างน้ำนมจริงๆ เพราะไม่มีความต้องการแล้วเพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือ หลังคลอด (ไม่ว่าจะคลอดเองหรือผ่าคลอด) ให้ลูกดูดให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดูดบ่อยๆ และดูดให้ถูกวิธี (ก่อนออกจากโรงพยาบาล ต้องแน่ใจแล้วว่าลูกดูดนมแม่ได้อย่างถูกต้องแล้ว)อย่าลืมอ่าน รวมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ชุดที่ 2ที่มา : Breastfeeding Myth โดย Dr. Jack Newman, MD, FRCPCแปลโดย : พัชรินทร์ เจริญบุตรเครดิค : http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=288862&Ntype=3
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น