"ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึง มาหา ความหมาย
ฉันหวัง เก็บอะไร ไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว"เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินบทกลอนนี้กันมานานแล้วนะครับ
คุณคิดว่าบทกลอนนี้ยังเป็นจริงหรือไม่?
เกิดอะไรขึ้นกับการศึกษาไทย ที่ปัญหาที่เกิดขึ้นมานับสิบๆปี ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข?
เกิดอะไรขึ้นกับสังคมในยุคปัจจุบัน ที่คนไทยจิตใจเสื่อมลงทุกที?
เกิดอะไรขึ้นกับผู้ใหญ่ในประเทศที่ยังคงเป็น "สังคมฐานความเชื่อ" ไม่ใช่ "สังคมฐานความรู้" ?
เกิดอะไรขึ้นกับเด็กไทยที่บูชาแต่วัตถุ ทุกคนต้องมีมือถือ / ติดแต่เกมส์ / ความอดทนต่ำ ?
ถ้าคุณคิดว่าต้นตอของปัญหาทั้งหมดเกิดจากระบบการศึกษา...
คุณลองเปิดใจให้กว้าง แล้วตามผมมาทำความรู้จักกับแนวการศึกษาสวนกระแส
"โรงเรียนในอุดมคติ" แห่งนี้สิครับ
แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนผมว่า "มันยังมีโรงเรียนแบบนี้ อยู่ในสังคมไทยในปัจจุบัน หรือนี่ !!??!!?!?!?"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เด็ก ‘ปัญโญทัย’ ไม่ดูทีวี"
"ที่นี่ไม่มีคอมพิวเตอร์"
"ไม่มีการบ้าน ไม่มีการสอบวัดผล"
"การรับสมัครครู
หากท่านสนใจในการทำงานกับเด็ก มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาตนเอง ต้องการเติมคุณค่าและความหมายให้แก่ชีวิต สนใจจะช่วยกันสร้างสรรค์โอกาสที่เด็กจะได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม รอบด้าน สมดุล ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานที่โอบอุ้ม เกื้อกูล จริงใจต่อกัน ในบรรยากาศการทำงานที่ปราศจากการแก่งแย่ง เอารัดเอาเปรียบ หรือตักตวง ปัญโญทัย ยินดีต้อนรับ "นี่คือข้อมูลบางส่วนที่ผมพบเจอและประทับใจปนสนใจ ของโรงเรียนสวนกระแส "โรงเรียนปัญโญทัย" โรงเรียนสไตย์ Waldorf ย่านรามอินทรา จนอดไม่ได้ที่จะไปเยี่ยมเยียนเพื่อหาคำตอบในวัน Open House ...
ข้อมูลทั่วไปและแนวการสอนเป็นโรงเรียนแนววอลดอร์ฟ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล - ม.6
ระดับชั้นอนุบาล 1- 3 จะเรียนร่วมกัน จนอายุครบ 6 ขวบ จะปรับขึ้นชั้น ป.1
ครูที่สอนจะรับผิดชอบสอนนักเรียนตั้งแต่อนุบาล 1 และจะขึ้นตามนักเรียนไปเรื่อยๆ จนถึงชั้น ม.2
ไม่มีการสอบ ไม่มีการบ้าน วัดผลนักเรียนโดยการปฏิบัติ
ระดับอนุบาล และประถม นักเรียนจะไม่มีหนังสือเรียน ในต้นเทมอนักเรียนจะมีสมุดไว้จดการเรียนต่างๆในเทอมนั้นๆ
ไม่มีเครื่องแบบ (แต่เท่าที่เห็น แม้แต่นักเรียนชั้น ม.ปลาย ก็แต่งตัวกันอย่างสบายๆ ต่างจากบางโรงเรียนที่ไม่มีเครื่องแบบ แต่นักเรียนแต่งตัวกันหยั่งกับออกมาจากหนังสือรักลูก)
นักเรียน ม.ปลาย ต้องมีการไปฝึกงาน เพื่อสังคม
คำถาม-คำตอบเกี่ยวกับโรงเรียนQ: ในยุคที่สังคมไทยโหยหา 3G แต่นักเรียนที่มีจะไม่ให้ใช้ Computer จนกว่าจะ ม.4 มันจะเหมาะสมเหรอครับ??
A: - Internet ไม่ใช่แหล่งข้อมูลสำคัญที่สุด ถึง ม.ปลายค่อยใช้ก็ไม่สาย และไม่สนับสนุนการหาข้อมูลและนำเสนอแบบ copy and paste
- สิ่งที่จะได้มาคือเด็กจะมีความอนทนกว่าที่จะหาข้อมูลอะไรได้ซักอย่าง
Q:แต่ในโลก Internet มันก็มีข้อมูลที่มีประโยชน์มากมายนะครับ ถ้าเราสอนให้เด็กรู้จักใช้งาน??
A: - ลองคิดดูสิ แม้แต่ผู้ใหญ่ เรายังควบคุมตัวเองลำบากเลย เมื่อใช้ Internet แล้วเด็กละ ... เด็กๆ ควรใช้เวลากับโลกจริงๆ ไม่ใช่ อยู่แต่ในโลกเสมือน ไม่ใช่หรือ
Q: นักเรียนที่เรียนที่นี่จะกลับไปเรียนต่อ กับโรงเรียนในระบบได้หรือไม่
A: - เด็กนร. บางคนสามารถกลับเข้าไปเรียนในระบบได้ และทำได้ดีเสียด้วย แต่ในทางปฏิบัติแล้ว พ่อแม่ที่จะเลือกให้ลูกเดินทางสายนี้ควรจะศึกษาข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อน เพราะการที่มาเปลี่ยนแปลงระหว่างทาง ผลเสียจะตกอยู๋ที่ตัวเด็กทั้งสิ้น
เด็กสามารถกลับเข้าไปเรียนในระบบได้ แต่ในระยะแรกจะต้องเหนื่อยหน่อย เพราะไม่คุ้นเคยกับระบบการศึกษาปกติ
Q: เด็กของที่นี่ถูกสร้างมาให้เป็นคนดี ไม่ไปแข่งขัน แก่งแย่งกับใคร แล้วนักเรียนที่นี่จะสามารถใช้วิตอยู่ในสังคมที่ยังต้องใช้"เงิน" และต่อสู้กันในการทำงานจริงได้หรือ
A: - เด็กที่ปัญโญทัย จะถูกสอนให้รู้จักการลงมือทำ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่่งแน่นอนว่า ในระหว่างทางย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ เด็กๆจึงต้องใช้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทักษะเหล่านี้ จะติดตัวไปในอนาคต เด็กจะรู้จักการแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญา อย่างไม่ท้อถอย มีคนเคยพูดว่า เด็กที่ผ่านการเรียนแนวใหม่ๆ เหล่านี้แหละ ที่จะปรับตัวได้ดีกว่าคนที่เติบโตขึ้นมาในระบบการศึกษาปกติ ที่ชีวิตวันๆ เจอแต่แค่ตัวหนังสือ ตำรับตำรา และคำว่า "ผิดหรือถูก" เท่านั้น
[คำถามอื่นๆจะตามมาครับ]
บรรยากาศโดยรวมสิ่งที่พวกเราพบ โรงเรียนเป็นบรรยากาศแบบพอเพียงอย่างแท้จริง ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี
เด็กนักเรียนอนุบาลกำลังออกมาเล่นทรายอยู่หน้าห้อง
เด็กประถมบางห้องกำเล่นเล่นดนตรี
เด็กมัธยมกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมวงกันเรียนวิชาตระก้อ
บางห้องก็กำลังง่วนอยู่กับการฝึกเย็บผ้า
ผมมีโอกาศได้คุยกับครูบางคน พบว่าครูที่นี่ส่วนใหญ่ เป็นคนที่ใจเย็นมาก
ส่วนใหญ่จะมีลูกเรียนอยู่ที่นี่ และพร้อมอุทิตเวลาส่วนตัวมาช่วนเหลือโรงเรียน
ครุที่นี่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก และต้องผ่านการอบรมหลักสูตรด้าน Waldorf มา
ผู้ปกครองบางท่านไม่สะดวกที่จะมาเป็นครูประจำ ก็จะแวะเวียนมาช่วยตามความถนัดของแต่ละท่าน
ค่าเทอม ของที่นี่ เฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 บาทกว่าต่อคนต่อเทอม (ตั้งแต่ อนุบาล - ม.6)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับผู้อ่านบางท่านที่เพิ่งเคยรู้จักแนวการสอนนี้ ผมแนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตาม Link ด้านล่างครับ
บทความ :: ปัญโญทัย โรงเรียนสวนกระแส (เด็ก ‘ปัญโญทัย’ ไม่ดูทีวี, ที่นี่ไม่มีคอมพิวเตอร์, ม.ปลาย ไม่แบ่งวิทย์-ศิลป์, สร้างวินัย: เครื่องแบบ ไม่ต้อง)
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=44963VDO :: โรงเรียนในอุดมคติ <===
http://www.wakeupwakeupwakeup.com/flvplayer.swf?file=http://www.wakeupwakeupwakeup.com/flv/punyothai.flvVDO:: ปัญโญทัย โรงเรียนมีชีวิต <=== บทสัมภาษณ์ความเห็นของผู้ปกครองของที่นี่
http://vimeo.com/14950934Facebook เครือข่ายพ่อแม่ของโรงเรียนปัญโญทัย ::
http://www.facebook.com/note.php?note_id=124861237558629#!/pages/Panyotai-Parents/137493796263065
เวปส่วนตัวของผู้ปกครองคนหนึ่งในปัญโญทัย ::
http://parentschool.wordpress.com/--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากการได้ไปสำผัสโรงเรียนในวันนี้ อาจจะยังมีอีกหลายคำถามที่ผมยังค้างคาอยู่ในใจ เพราะเป็นแนวทางใหม่ที่พบเพิ่งเคยรู้จักจริงๆ
ผมยังมิอาจจะตัดสินใจได้ว่าแนวการสอนนี้จะเหมาะกับลูกผมจริงๆหรือไม่
แต่สิ่งหนึงที่ผมสัมผัสได้คือ ความเป็นเด็กที่สดใส-บริสุทธิของนักเรียนที่นี่ ที่มิอาจพบได้ง่ายนักในโรงเรียนในกรุงเทพ
ความเอื้ออาทร ใจเย็นมาก และต้องการสร้างเด็กที่ดี ของคณะครูที่พร้อมทำงานด้วยใจ ไม่ใช่รายได้
เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะให้ผม "
หลงรัก" โรงเรียนในอุดมคติ แห่งนี้ และพร้อมที่จะหาข้อมูลต่างๆต่อไป
แล้วท่านผู้อ่านละครับ มีความคิดเห็นอย่างไร แชร์กันได้นะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น