15 วิธีง่ายๆ สร้างลูกให้ฉลาด/ดร.แพง ชินพงศ์
โดย ดร.แพง ชินพงศ์ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่คงมีความคาดหวังไม่มากก็น้อยในเรื่องลูกว่าอยากให้ลูกของเราเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ไม่ว่าจะอยากให้ลูกมีหน้าตาน่าเอ็นดู น่ารักน่าชัง มีนิสัยดี มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสิ่งที่เป็นความคาดหวังอันดับแรกๆเลยคงหนีไม่พ้นการอยากให้ลูกเป็นคนเก่งหรือเป็นคนฉลาดนั่นเองวันนี้ทีมงาน Life & Family ขอนำเสนอ 15 วิธีปฏิบัติง่าย ๆ ที่จะช่วยสร้างให้ลูกของคุณเป็นเด็กฉลาดได้ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ได้รวบรวมมาจากประสบการณ์ผลงานวิจัยและแนวคิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า เมื่อนำมาใช้กับเด็กแล้วสามารถสร้างลูกให้ฉลาดได้อย่างจริงแท้แน่นอนดังนี้1.ให้กินนมแม่ ผลการวิจัยพบว่าเด็กที่ได้กินนมแม่เป็นเวลา 8-9 เดือน จะมีความฉลาดมากกว่าเด็กที่กินนมแม่เพียง 1-2 เดือน เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่ครบถ้วนเป็นประโยชน์ในการใช้สร้างเซลล์สมองของ เด็กทารก ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ จึงมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของลูกอย่างมาก2.ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่ดีและมีประโยชน์ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงแต่ต้องเป็นอาหารที่มีสาร อาหารครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ นม ไข่ และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งมีสารโปรตีนช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรง มีภูมิต้านทานดี ข้าว แป้ง เผือก มัน มีสารคาร์โบไฮเดรต ซึ่งให้พลังงาน จึงเป็นประโยชน์ต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของลูก พืชผักผลไม้ต่าง ๆ ให้สารวิตามินและแร่ธาตุเพื่อเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำมันและไขมันจากพืชและสัตว์ให้ความอบอุ่นและพลังงานแก่ร่างกาย ดังนั้น เมื่อร่างกายสมบูรณ์พร้อม การเรียนรู้ก็จะสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพนั่นเอง3.เล่นกับลูก ของเล่นที่ดีที่สุดในโลกของลูกคือ "พ่อแม่" ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่สามารถไปหาซื้อของเล่นที่มีขายตามท้องตลาดมาให้ลูกเล่นได้ก็ ไม่ต้องกังวลใจไปว่าลูกจะไม่มีของเล่นยอดฮิตยอดนิยมเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แค่เพียงคุณพ่อคุณแม่เล่นเป็นเพื่อนลูก ก็ถือว่าเป็นการเล่นที่มีประโยชน์และมีคุณค่าที่สุดแล้ว เช่น เล่นเกมจ๊ะเอ๋ เล่นเกมซ่อนหา หรือเล่นคลานแข่งกับลูก เพียงแค่นี้ก็ทำให้ลูกสนุกสนานมีความสุข อีกทั้งช่วยพัฒนาความฉลาดและกระตุ้นการเรียนรู้ของลูกด้วย ดีกว่าปล่อยให้ลูกนั่งจมกองของเล่นอยู่ตามลำพังอย่างว้าเหว่ เพราะการทำเช่นนี้นอกจากทำให้ลูกไม่มีความสุขอย่างแท้จริงแล้ว อาจสร้างปัญหาด้านจิตใจและด้านสังคมตามมา ซึ่งจะมีผลต่อการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของลูกได้4.พาลูกออกไปนอกบ้าน เช่น พาไปเดินเล่นสวนสาธารณะในวันหยุด พาไปซื้อของที่ตลาด เป็นการเปิดสมองและเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีให้กับลูกได้อย่างดีทีเดียว เพราะลูกสามารถเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านสิ่งที่เขาได้พบเห็น เช่น ที่ตลาดมีผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์หลายชนิดแตกต่างกันไปและมีคนหลากหลายอาชีพมาซื้อของที่ตลาด เช่นนี้ลูกก็จะได้เรียนรู้เรื่องของพืช สัตว์และวิถีชีวิตของผู้คนไปพร้อมๆกัน ซึ่งเป็นการช่วยพัฒนาความฉลาดในด้านการคิดวิเคราะห์และการสังเกตได้ดี5.ให้ลูกได้ทำงานศิลปะ เช่น วาดรูป ระบายสี ปั้น ตัดแปะ นอกจากเป็นการช่วยพัฒนาสมองด้านความคิดสร้างสรรค์ ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อนิ้วและมือแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกมีอารมณ์อ่อนโยน มีความสุนทรีย์และเป็นการฝึกสมาธิในตัวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหากลูกเป็นเด็กมีสมาธิดีแล้วก็จะทำให้การเรียนรู้เกิดผลได้ดีขึ้น6.ร้อง เล่น เต้นสนุก การร้องเพลง การเต้นระบำและเล่นดนตรี ช่วยพัฒนาความฉลาดของเด็กโดยตรง เพราะการที่เด็กเรียนรู้เรื่องของจังหวะและการอ่านโน้ตดนตรีจะช่วยพัฒนาสมองซีกซ้ายซึ่งเกี่ยวกับด้านคณิตศาสตร์และการคิดวิเคราะห์ และการที่เด็กได้คิดสร้างสรรค์ท่าทางตามเพลงจะช่วยพัฒนาสมองซีกขวาซึ่งเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง แต่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจในการเลือกเพลงที่มีเนื้อหาหรือทำนองที่เหมาะสมกับเด็กจริง ๆ เช่นไม่ควรเลือกเนื้อเพลงที่มีเนื้อหาประเภทชิงรักหักสวาทหรือไม่ควรเลือก ดนตรีที่มีจังหวะรุนแรงดุดันเพราะอาจกลายเป็นผลร้ายทำให้เด็กมีพฤติกรรม รุนแรงได้7.การอ่าน การอ่านเป็นประตูสู่ความฉลาดอย่างที่ไม่มีใครเถียงได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องส่งเสริมให้ลูกได้อ่านและคลุกคลีกับหนังสือตั้งแต่เด็กแม้ในเด็กเล็กที่ยังอ่านหนังสือเองไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังทุก ๆ วัน หรือหาหนังสือภาพให้ลูก ๆ ได้ดู เพราะนั่นจะเป็นการเปิดประตูสู่พัฒนาการที่ดีให้กับลูก ทั้งช่วยพัฒนาในด้านภาษา ช่วยพัฒนาทักษะการคิด การมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ8.เล่นเกม เกมประเภทหมากฮอส หมากรุก ครอสเวิร์ด เกมเศรษฐี ซุโดกุ ช่วยพัฒนาความฉลาดของลูกในด้านของ การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์การตัดสินใจ การคิดวางแผนและความจำได้เป็นอย่างดี9.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยพัฒนาทางด้านร่างกายของลูกให้เติบโตอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพดีแล้ว ยังเป็นการปลุกสมองของลูกให้ตื่นตัว กระฉับกระเฉง พร้อมเต็มที่ในการเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้อย่างง่ายและรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ควรดูแลให้ลูกออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ไม่หักโหมและไม่เป็นอันตราย10.ให้ลูกเข้าสังคม การให้ลูกได้มีโอกาสไปพบปะผู้คนทุกเพศทุกวัยอยู่เสมอ เป็นการพัฒนาความฉลาดทางด้านอารมณ์ (EQ) ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้แล้ว ยังทำให้ลูกเป็นคนเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเปิดมุมมองความคิดและการเรียนรู้ในด้านต่างๆให้ลูกด้วย เช่น ถ้าพาลูกไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่อย่างปู่ย่าตายาย ท่านก็อาจจะเล่าเรื่องวิถีชีวิตของคนในยุคสมัยก่อนให้ได้ฟัง ก็ทำให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องของประวัติศาสตร์นั่นเอง11.พาลูกเข้าครัว ครัวเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มีประโยชน์มากสำหรับลูก การให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารจึงเป็นการช่วยให้ลูกได้พัฒนาความฉลาดทางด้านต่างๆมากมาย ทั้งด้านภาษา โดยเรียนรู้ผ่านชื่ออุปกรณ์การทำอาหารและส่วนผสมของอาหารต่าง ๆ เช่น กระทะ ตะหลิว ครก สาก น้ำปลา น้ำมัน ทั้งด้านคณิตศาสตร์ โดยเรียนรู้เรื่องการชั่ง ตวง วัด และทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเรียนรู้การใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต เช่น สีของอาหารที่ทอดสุกแล้วการสัมผัส เช่น ความร้อน ความเย็น และการชิมเพื่อทราบรสชาติ เช่น รสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด12.ให้ลูกช่วยทำงานบ้าน เช่น รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน ถูบ้าน เก็บเสื้อผ้า เป็นการฝึกความรับผิดชอบและยังช่วยฝึกสมองในการวางแผนการทำงานการแก้ไขปัญหา การรู้จักคิดอย่างละเอียดลออ13.ให้ลูกได้อยู่กับตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้มีโอกาสนั่งเงียบ ๆ หรือนั่งเล่นสำรวจสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวด้วยตนเองสักประมาณวันละ5-10นาทีเพื่อเป็นการฝึกสมาธิและพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ลูกกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง14.ให้เวลากับลูก คุณพ่อคุณแม่ควรมีเวลาพูดคุยกับลูกอยู่เสมอ เพื่อซักถามเรื่องราวในชีวิตของลูกและเพื่อตอบคำถามที่ลูกมีข้อสงสัยจะเป็นการช่วยให้ลูกได้พัฒนาทักษะการคิด ความมีเหตุมีผล ทั้งยังส่งเสริมการกล้าแสดงออก และฝึกความมั่นใจในตนเองให้กับเขา นอกจากนี้การได้พูดคุยกับลูกจะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้สังเกตพฤติกรรมอื่น ๆ ของลูกด้วย เช่น ถ้าลูกพูดโดยมีคำที่ไม่สุภาพติดมาก็จะได้ตักเตือนและแก้ไขได้ และจะได้ซักถามว่าลูกไปเอาคำเหล่านี้มาจากไหน เช่น ถ้าลูกบอกว่าได้ยินจากโทรทัศน์ ก็จะได้ระวังดูแลในการเลือกรายการที่เหมาะสมให้ลูกดู15.ให้ความรักกับลูก ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่อบอวลไปด้วยความรัก ความเข้าใจและการยอมรับซึ่งกันและกัน ถือเป็นเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้แก่ลูกได้ดีที่สุด ซึ่งความภาคภูมิใจในตนเองนี้จะช่วยทำให้ลูกเป็นคนมองโลกในแง่ดี เป็นคนมีความฉลาด กล้าคิด กล้าทำและมีความมั่นใจในศักยภาพของตนเองในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆการที่คุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมให้ลูกเป็นคนฉลาดเป็นสิ่งที่ดี แต่ในขณะเดียวกันต้องอย่าลืมที่จะส่งเสริมให้ลูกเป็นคนที่มีคุณธรรมหรือจิตใจที่ดีงามด้วย เพราะเป็นคนฉลาดอย่างเดียวนั้นไม่พอ แต่ต้องเป็นคนดีด้วย จึงจะสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างราบรื่น และถ้าทุกคนในสังคมทั้งฉลาดและทั้งดี คนไทยก็จะเป็นคนที่มีความสุขและประเทศไทยก็จะเป็นประเทศที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น