ตอนนี้ลูกเรา 2 ขวบ ครึ่งแล้ว เพื่อนๆ ในหมู่บ้านที่อายุพอๆ กัน ก็ไป รร. กันเกือบหมดแล้วค่ะ

ตอนนี้ลูกเรา 2 ขวบ ครึ่งแล้ว เพื่อนๆ ในหมู่บ้านที่อายุพอๆ กัน  ก็ไป รร. กันเกือบหมดแล้วค่ะ
ใครๆ ก็ชอบถามว่าเป็นไงเรียนที่ไหน แรกๆ เราก็บอก ยังค่ะ หลังๆ บอกยังไม่ให้เข้าค่ะ ทำเสียงโหดๆ หน่อย

บางคนก็หวังดี ถามว่าทำไมยังไม่ให้เข้าหล่ะ เดี๋ยวเรียนไม่ทันเพื่อน
คือบางคนเค้าจะมีความคิดผิดๆ ที่ว่าเข้า รร. เร็วเด็กจะฉลาด อะไรแบบนี้น่ะค่ะ
แต่มันไม่จริงเลย เพราะเด็กจะเรียนได้ดี เมื่อพร้อม และมีความสุขกับการเรียนรู้ อันนี้เราทดสอบกับลูกเราแล้วมันจริงอ่ะค่ะ

เราไม่เคยยัดเยียดอะไรให้เค้าเลย แต่หาของน่าสนใจมาไว้ใกล้ๆ รอให้เค้าถามเองว่านี่อะไร นั้นอ่ะไร พอเราสอนหนเดียว เค้าก็ทำได้
หรือบางอย่างรายละเอียดมันเยอะ สอนวันสองวันเค้าก็จำได้หมด

มันไม่ได้อยู่ที่ว่าเค้าเริ่มเมื่อไหร่ แต่อยู่ที่ว่าเรากระตุ้นให้เค้าสนใจได้เมื่อไหร่ต่างหาก

บางคนบอกทำไมลูกเรา จำ A-Z ได้ตั้งแต่ยังไม่ขวบ แม่ต้องแบบว่ากดดันแน่ๆ เลย
ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย ให้เค้าฟังเพลง เค้าสนุก เค้าก็อยากรู้เองว่าอะไรเป็นอะไร

ถามว่าจำ ก-ฮ ได้ วันๆ นี่แม่จับมานั่งโต๊ะ ชี้ๆ สอนให้จำ หรือเปล่า ก็ไม่ใช่

บางคนบอกว่าทำยังไงดี ทำไมลูกถึงทำไม่ได้แบบคนอื่น
ต้องถามว่าพ่อแม่สอนแบบตั้งใจสอนและคาดหวังมากไปหรือเปล่า หรือกระตุ้นให้เค้าสนใจ สงสัย อยากรู้อยากเห็น

รร. ก็เหมือนกันค่ะ ถ้าเราเลือก รร. แนววิชาการเหมือนสมัยที่เราเรียนกันตอนเด็กๆ คือ นั่งโต๊ะ คัดก.ไก่
ไป รร. ท่องๆๆๆๆ กลับบ้านมีการบ้านนั่งคัด ก.ไก่ อีก
ถามว่าเด็กได้อะไรจากการไปโรงเรียน เด็กจะได้กรอบที่ผู้ใหญ่ตีมาให้ เอ้าอันนี้นะ ต้องท่องให้ได้ การบ้านต้องเสร็จนะ ไปคัดมาตามครูสั่ง ห้ามออกนอกเส้นนะ เดี๋ยวไม่ได้คะแนนเเต็ม ทั้งๆ ที่เด็กเล็กๆ ยังควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ไม่ดีพอที่จะเขียนหนังสือเลย

หรือเราไปเลือก รร.อีกแบบที่วันๆ ให้เด็กปั้นแป้งโดว์ เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก ให้เล่นของเล่นออกแรง เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่
ได้ทดลองวิทยาศาสตร์ผ่านการเล่น การสังเกตผ่านกิจกรรม เด็กแบบไหนจะได้ผลลัพท์ที่ดีกว่า

เค้าก็วิจัยกันมาแล้วว่าเด็กที่เรียนรู้ผ่านการเล่น อาจจะเขียนหนังสือได้ช้ากว่า เพราะเด็กไม่ได้ถูกบังคับให้ทำ แต่ระยะยาวแล้ว เด็กจะทำได้ดีกว่า คิดเป็นระบบกว่า รู้จักเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ นานา เพราะได้เรียนรู้ผ่านการทดสอบด้วตัวเอง สารยายไม่หมด
เรื่องเด็กจะเขียนได้เร็วได้ช้า ไม่มีผลต่อความฉลาดของเด็ก

ตอนนี้เราก็ไปดู รร. มา 10 ที่เห็นจะได้ ยังไม่ค่อยถูกใจ
เพราะบอกตรงๆ บาง รร. สถานที่ดูดี แต่ครูแย่ ไม่มีวิธีที่ดีในการจัดการกับเด็ก เช่นเด็กไม่ทำตามที่ครูต้องการ ก็เสียงดัง หรือตะคอก ใช้คำพูดแย่ๆ เสียดแทงจิตใจ ถามว่า ลูกเรามีความจำเป้นต้องไปรับอะไรแบบนั้นไหม...?

แล้วเราเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่มีญาติในบ้าน คือเด็กเค้าเป็นเด็กที่ค่อนข้างติดแม่มาก สังคมของเค้าคือแม่
แล้วในวัยเด็กเล็กๆ แบบบนี้ สังคมหลักของเค้าคือครอบครัวที่อบอุ่น
ถ้าจะออกจากแม่ไปเจอสังคมใหม่ ควรจะเป็นอะไรที่อบอุ่น และดีพอสมควร ไม่ใช่ออกไปแล้วร้ายกาจกับเค้า

บางทีเราก็งงเหมือนกัน เพราะบางคนที่เคยคุยเค้าก็เลือก รร. จากคำบอกเล่าของเพื่อนฝูง และไปจ่ายเงินค่าเทอม โดยยังไม่ได้ไปดู รร. ให้แน่ใจเลยด้วยซ้ำ แต่ฟังๆ ชื่อเสียงของรร. แล้วก็ตัดสินใจเอาเลย

สำหรับเรา เราค่อนข้างเรื่องมาก เรื่อง รร. ของลูกมากกกกกกกกกกก
แต่ถ้าใครเคยคุยกับเรา และรู้ว่าเราเลี้ยงลูกแนวไหนจะค่อนข้างเข้าใจได้

เรายังคิดเลยว่าถ้า 3 ขวบครึ่งแล้วลูกเรายังไม่พร้อม หรือยังหา รร. ที่ถูกใจจริงๆ ไม่ได้ เราก็จะสอนเอง
เพราะเท่าที่เราสอนลูกเองมาในหลายๆ เรื่องเราคิดว่า ค่อนข้างประสบความสำเร็จ เพราะเราร้ใจลูกเราว่าจะกระตุ้นความสนใจเค้าอย่างไร

แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะให้เค้าได้ไม่เต็มที่เหมือนการไป รร. ก็คือ การได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ สนุกแบบเด็กๆ อารมณ์เด็กๆ เล่นด้วยกัน  อะไรแบบนี้