การรู้จักขอโทษของพ่อแม่ต่อลูก
พ่อแม่บางคนไม่เคยขอโทษลูก ทั้งที่รู้ตัวว่าผิด หรือทำให้ลูกต้องเสียใจ พ่อแม่บางคนกลัวว่าการขอโทษลูก จะทำให้เด็กเห็นความอ่อนแอและไม่เคารพนับถือตนอีกต่อไป ความคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้องเลย
ที่จริงแล้ว การขอโทษเป็นเรื่องธรรมดาที่ควรกระทำอย่างยิ่ง ไม่ใช่เรื่องของการเสียหน้าแต่อย่างใด
ถ้าลูกโตพอที่จะพูดได้แล้ว ก็หมายความว่า เขาโตพอที่จะเข้าใจและพอใจกับการที่พ่อแม่ยอมรับออกมาว่า พ่อแม่ทำผิด และกล่าวคำขอโทษกับเขา หรือแสดงความเสียใจที่ทำให้ลูกผิดหวัง หรือทำผิดพลาดบางอย่าง
พ่อแม่เป็นคนธรรมดา ย่อมทำผิดพลาดได้เหมือนกัน
หากคุณขอโทษลูก ลูกจะยิ่งเห็นว่าคุณมีความจริงใจ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่าตนเอง เขาก็จะให้ความเคารพคุณมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วลูกจะไม่ถือสาและให้อภัยอยู่แล้วเพราะเขารักคุณ และลูกจะได้รู้จักขอโทษคนอื่นเป็นด้วย เพราะเห็นตัวอย่างจากคุณ
การบังคับลูกให้กล่าวคำขอโทษ ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด หรือเขารู้สึกว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อาจทำให้เด็กรู้สึกคับแค้นและไม่พอใจ ก่อนที่จะบังคับให้ลูกขอโทษนั้น คุณควรแน่ใจเสียก่อนว่าตัวเขาเองมีความรู้สึกเสียใจ ที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น หากเขาไม่รู้สึกเช่นนั้น การรุกเร้าให้เขาขอโทษย่อมไม่มีประโยชน์อะไร
เด็กไม่จำเป็นต้องขอโทษผู้ใหญ่เสมอไป ในกรณีที่ผู้ใหญ่เป็นคนทำผิด ผู้ใหญ่ก็ควรจะขอโทษเด็กก่อน อย่างเช่น ในกรณีที่เดินอยู่บนท้องถนน ลูกคุณเดินชนกับผู้ใหญ่คนหนึ่งเข้า และเด็กรู้ว่าการชนนั้นเนื่องมาจากความเซ่อซ่าของผู้ใหญ่คนนั้น คุณจะไปบังคับให้ลูกขอโทษเขา ก็เป็นการไม่ยุติธรรมต่อเด็ก
บางครั้ง การกล่าวคำขอโทษพร่ำเพรื่อก็อาจกลายเป็นดาบสองคมได้เหมือนกัน เด็กบางคนอาจอาศัยการขอโทษเป็นเครื่องมือหลีกหลี่ยงความรับผิดชอบได้ ด้วยมีความรู้สึกว่าถ้าได้ขอโทษไปแล้ว ก็หมายความว่า เขาไม่ต้องรับผิดชอบกับการทำผิดของตัวเองอีกต่อไป
ในกรณีเช่นนี้ พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้ว่า การขอโทษไม่ใช่คำแก้ตัว หรือข้ออ้างใด ๆ เพื่อให้พ้นผิด การขอโทษจะต้องมีความรู้สึกสำนึกผิดด้วย และจะต้องไม่ทำผิดเช่นนั้นอีก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก childanddevelopment.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น