[บทความ] เตรียมตัวอย่างไรให้มีน้ำนมแม่หลังคลอด

 

เตรียมตัวอย่างไรให้มีน้ำนมแม่หลังคลอด

ตั้งใจจะเขียนบทความการเตรียมตัว ให้มีน้ำนมแม่หลังคลอด ไว้ให้อ่านกัน แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากเบบี๋ตัวน้อยที่บ้านด้วย ถ้าไม่ยอมนอนก้อไม่มีเวลาเอาซะเลย

เข้าเรื่องดีกวา แม่ๆหลายคนหลังคลอด เพิ่งมาพบว่าตัวเองไม่มีน้ำนมให้ลูก หรือ(รู้สึก)ว่านมไม่พอ ทำให้ต้องเสริมนมผสมให้ลูก จนหลายๆ คนเสียความรู้สึก เพราะคิดว่าไม่สามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกได้


ถ้าอยากให้มีน้ำนมแม่หลังคลอด ควรจะเตรียมตัวตั้งแต่ตั้งครรภ์นะจ๊ะสาวๆ

โดยการหาข้อมูล และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการผลิตน้ำนม  ทำอย่างไรให้มีน้ำนม  ฯลฯ
ลองอ่านบทความที่  breastfeedingthai.com และ thaibreastfeeding.org ทั้งสองเว็บนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการให้นมแม่
อยากให้คนที่กำลังจะเป็นแม่ทุกคนไล่อ่านบทความเกี่ยวกับนมแม่ให้มากที่สุด
หากไม่มีเวลามากมาย ลองทำความเข้าใจกับบทความที่สำคัญเหล่านี้เป็นอันดับแรกๆ เลยค่ะ

"นมแม่" ถ้าเข้าใจ ยังไงก็พอ http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=380061

นมพอหรือไม่ http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=353433

วิธีเพิ่มน้ำนมด้วยการปั๊มนม http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=306754

เคยอ่านเจอในเว็บบอร์ดที่หนึ่งค่ะ มีแม่มือใหม่คนหนึ่งบอกว่า เป็นบุคลากรในโรงพยาบาล เข้าใจเรื่องนมแม่เป็นอย่างดี  เลยมั่นใจว่าตัวเองมีน้ำนมให้ลูกแน่นอน พอถึงกำหนดคลอด บอกว่าตัวเองไม่มีน้ำนม แล้วบอกอีกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีน้ำนม ขนาดตัวเองหน้าอกใหญ่ยังไม่มีน้ำนมให้ลูกเลย

อ่านเสร็จแล้วได้แต่คิดว่า ที่บอกว่าเข้าใจนี่เข้าใจอย่างไหนกัน เพราะจากที่หาข้อมูลมา ขนาดหน้าอกไม่แปรผันเกี่ยวกับการมีน้ำนมให้ลูก

ขอย้ำอีกครั้ง ให้ว่าที่แม่ทุกคน ย้อนไปอ่านบทความที่บอกด้านบน และบทความอื่นๆ ในเว็บไซต์ที่บอกไปให้มากที่สุดค่ะ

หากใครมีเวลาน้อย หรือขี้เกียจ (เอ๊ะเพื่อลูกนะ ยังจะขี้เกียจอีก เดี๋ยวจับมาตีซะเลย)  จะสรุปคร่าวๆให้ดังนี้

สิ่งที่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับนมแม่
-   ศึกษาข้อมูลการให้นมแม่ก่อนคลอดให้มากที่สุด
-   ขนาดของหน้าอกไม่มีผล
-   สูติฯแพทย์มีผลกับการเตรียมตัว ในการให้นมลูก ควรเลือกหมอที่เข้าใจ และให้กำลังใจ หมอสูติจะต้องเชคหัวนมในขณะตั้งครรภ์ หากมีปัญหาหัวนมบอด ฯลฯ หมอจะแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ในการเตรียมหัวนมขณะตั้งครรภ์
-   เด็กแรกเกิดสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไรถึง 7 วัน เพราะมีอาหารสะสม น้ำหนักสามารถลดลงได้ถึง 10% ก่อนน้ำนมแม่จะมา
-   หลักการให้นมแม่ที่ถูกต้องคือ “ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี”
-   ก่อนนมแม่จะมา ห้ามให้นมผสมเด็ดขาด
-   ทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ที่บ้านให้เรียบร้อย ผู้ใหญ่เป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้การให้นมแม่ล้มเหลว เพราะหาว่าแม่ไม่มีน้ำนม ให้ให้นมชงไปก่อน นี่เป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้นมแม่ไม่พอ และเกิดปัญหาลูกไม่ดูดเต้า
-   ห้ามให้นมผสมก่อนนมแม่จะมา ถ้าจำเป็นต้องให้นมผสม(จำเป็นจริงๆ เท่านั้น) ควรปรึกษาหมอเด็กที่สนับสนุนนมแม่ก่อน  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแทบจะไม่จำเป็นต้องให้นมผสมเลย
-   หาข้อมูลเกี่ยวกับกุมารแพทย์ที่จะเป็นหมอประจำตัวลูก  กุมารแพทย์ต้องเป็นผู้สนับสนุนนมแม่อย่างจริงจัง และเข้าในเรื่องนมแม่อย่างแท้จริง (หากยังเลือกไม่ได้ แนะนำหมอสุธีรา รพ. BNH ค่ะ)
-   ขอดูห้องเนิร์สเซอรี่ก่อนทำการคลอด พูดคุยสอบถามกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการให้นมแม่ว่า รพ.สามารถมั้ย เพราะบาง รพ. จะให้เด็กกินนมผสมก่อนนมแม่จะมา ซึ่งเป็ฯวิธีที่ผิด
-   รพ. บางแห่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็น รพ. สนับสนุนนมแม่ ไม่ได้สนับสนุนนมแม่อย่างแท้จริง ต้องสอบถาม และหาข้อมูลจากอินเตอร์เนจนกว่าจะแน่ใจ
-   ควรให้นมแม่ล้วนกับลูกเท่านั้นภายใน 6 เดือนแรก
-   ให้อาหารเสริมกับลูกหลัง 6 เดือน และให้นมแม่ต่อไปอย่างน้อย 2 ปี (ซึ่งจริงๆ ควรให้มากกว่า 2 ปี)

มีใครสงสัยบ้างว่า  “ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี” คืออย่างไร
ดูดเร็ว คือให้ลูกดูดนมแมให้เร็วที่สุดหลังคลอด เพราะมีผลว่านมแม่จะมาเร็วหรือช้า
ดูดบ่อย คือให้ลูก(แรกเกิด)ดูดนมทุก 2 ชม.
ดูดถูกวิธี คือการให้ลูกงับถึงลานหัวนม
ลองหาข้อมูลจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายแล้ว  หวังว่า “ว่าที่แม่คนใหม่” จะสามารถเตรียมตัวในการให้นมแม่กับลูกได้ถูกวิธี และประสบความสำเร็จในการให้นมแม่ค่ะ

มีข้อสงสัย สอบถามได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ


ความคิดเห็น