นมแม่ vs นมผสม นมอะไรดีคะ?
เคยสังเกตเห็นข้อความเหล่านี้ข้างกระป๋องนมผสม ไหมคะ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบ
1. นมแม่ เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน 2. ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล หรือนักโภชนาการ 3. เตรียมหรือใช้ส่วนผสมไม่ถูกต้องจะเป็นอันตรายต่อทารก
หรือโฆษณานมผสมตามหน้านิตยสารต่างๆ “นมแม่ คือ คุณค่าจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของลูกน้อย เพราะสะอาด บริสุทธ์ ปลอดภัย และอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน ...”
“น้ำนมแม่ หนึ่งในความมหัศจรรย์ของอาหารที่ธรรมชาติสร้างให้กับแม่สู่ลูกน้อย"
“คุณค่านานัปการของสารอาหารในน้ำนมแม่ นอกจากจะมีคุณค่ามหาศาลแล้ว ยังมีความสลับซับซ้อน ผสมผสานให้เกิดความสมดุลของความต้องการในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย”
“คุณแม่ควรเลือก นมผสม ซึ่งมีคุณค่าสารอาหารที่ ใกล้เคียง นมแม่มากที่สุด”
ข้อความดังกล่าวนั้นดูเหมือนจะถูกมองข้ามไป เพราะคำว่า ดีเอชเอ, โอเมก้า 3-6-9, ทอรีน, โอลิโกแซคคาไรด์, นิวคลีโอไทด์ ฯลฯ ในนม xxx ทำให้ลูกน้อยฉลาด แข็งแรง พัฒนาการสมวัย ในโฆษณาชิ้นเดียวกันจะดูโดดเด่นและดึงดูดความสนใจได้มากกว่า
นมผสมยี่ห้อต่างๆ จากหลากหลายบริษัท ต่างพยายามคิดค้น วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานนับสิบๆปี เพื่อที่จะอวดอ้างว่านมของตน “ใกล้เคียง” นมแม่ มากที่สุด แต่จนกระทั่งปัจจุบัน ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่เป็นกลางชิ้นใดจะพิสูจน์ได้ว่านมยี่ห้อใดดีกว่ากันแน่ แต่สิ่งที่นักวิทยาศาตร์ค้นคว้าและค้นพบได้จากการศึกษานมแม่มานานกว่าศตวรรษ จนต้องออกมายอมรับความจริงว่า "เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะคิดค้นหรือผลิตสารอาหารที่เหมือนกับนมแม่ได้"
ในขณะที่นับตั้งแต่มีมนุษย์คนแรกถือกำเนิดขึ้น ธรรมชาติก็สร้างให้ แม่ทุกคน มีอาหารที่ดีที่สุด สำหรับลูกของตนพร้อมแล้ว เป็นนมสูตรเฉพาะของลูกน้อยของคุณ ซึ่งปรับเปลี่ยนอัตโนมัติตามวัยของลูก ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีอันตราย ไม่ต้องเปลี่ยนสูตร 1 สูตร 2 สูตร 3 เหมือนนมผสม พร้อมใช้ได้ทุกเวลา ทุกสถานการณ์
ในเมื่อคนเป็นแม่ทุกคนมี อาหารที่ดีที่สุด สำหรับลูกอยู่กับตัวอยู่แล้ว (ฟรีอีกด้วย) แล้วทำไมเราจึงต้องไปเสียเงินแพงๆ เพื่อซื้ออาหารที่มีคุณสมบัติ “ห่างไกล” นมแม่ และยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตราย ให้กับลูกล่ะคะ
หมายเหตุ : คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับอาหารที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับทารกเรียงตามลำดับดังนี้
1. ให้ทารกดูดนมแม่ของตนจากอก 2. ให้ทารกดื่มนมแม่ของตนที่บีบหรือปั๊มออกมาด้วยวิธีอื่น (ใช้ขวดหรือป้อนด้วยช้อนหรือถ้วย) 3. ให้ทารกดื่มนมจากแม่คนอื่น (ในต่างประเทศ มีการบริจาคน้ำนม เป็นธนาคารน้ำนมหรือ Milk Bank) 4. ให้ทารกดื่มนมผสม
เห็นไหมคะว่า นมผสม เป็นทางเลือกสุดท้ายที่ WHO แนะนำ แต่ในความเป็นจริง ทุกวันนี้เราถูกกลยุทธ์โฆษณาทางการตลาดหลอกล่อ จนแม่ส่วนใหญ่เลี้ยงลูกด้วยนมผสมกันเป็นเรื่องปกติเสียแล้ว
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
ในกรณีที่คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคขาดสารอาหาร ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยไม่ให้อาหารชนิดอื่น แม้แต่น้ำ(Exclusive Breastfeeding) หลังจากนั้นให้นมแม่ควบคู่กับอาหารเสริมไปจนลูกอายุอย่างน้อย 2 ปี
ขอขอบคุณ ข้อมูลอันมีค่าจาก breastfeedingthai.com |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น